UFABET OFFICIAL เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

หน้าหลัก UFABET

แจ็คหม่า

แจ็คหม่า

แจ็คหม่า

ชีวิตของ แจ็คหม่า ผ่านหลายๆอย่างมาเยอะมาก ตั้งแต่วัยเด็ก สู่จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ จนกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก เจ้าของอาลีบาบา ก่อนจะประกาศอำลาตำแหน่งประธานบริหารในวันครบรอบคล้ายวันเกิด 55 ปี กว่าที่จะประสบความสำเร็จขนาดนี้ เขาผ่านอะไรมาบ้าง  

ชื่อของ “แจ็ค หม่า” (Jack Ma) โด่งดังไปทั่วทุกมุมโลก หลายคนรู้จักเขาในฐานะมหาเศรษฐี ผู้ก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง “อาลีบาบา” ที่มีความโดดเด่นทั้งการทำธุรกิจ และเรื่องราวการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก

และเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 แจ็ค หม่า ในวันครบรอบวันเกิด 55 ปี และครบรอบ 20 ปีของการก่อตั้งอาลีบาบา ได้ประกาศอำลาบทบาทประธานฝ่ายบริหารอาลีบาบา เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ กระปุกดอทคอม จึงอยากจะพาทุกคนย้อนไปดูกันว่า กว่าที่ชายคนนี้จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ เขาผ่านอะไรมาบ้าง มีวิธีคิดอย่างไร ถึงสามารถชนะอุปสรรคต่าง ๆ มาได้

ประวัติ แจ็คหม่าในวัยเด็ก

แจ็ค หม่า มีชื่อจริง ๆ ว่า “หม่า หยุน” เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2507 ในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดีอะไรมากนัก ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ช่วงวัยเด็กของเขาอาจไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะเรียนไม่เก่ง ต้องซ้ำชั้นอนุบาลถึง 7 ปี และมักจะถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้ออยู่เสมอ ด้วยความที่เป็นเด็กตัวเล็กกว่าคนอื่น

นอกจากนั้น เขายังแตกต่างจากเด็กทั่วไปที่ส่วนใหญ่มักใช้เวลาหมดไปกับการเที่ยวเล่น แต่เขากลับเลือกใช้เวลาทุกเช้าวันละ 40 นาที มุ่งมั่นไปกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยปั่นจักรยานไปยังโรงแรม เพื่อคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

และเสนอตัวเป็นไกด์นำเที่ยว ทำให้เขาได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษทุก ๆ วันเป็นเวลาถึง 9 ปี จนชำนาญการใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งชื่อภาษาอังกฤษ “Jack” ของเขาก็มาจากนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ตั้งให้เพื่อให้ง่ายต่อการออกเสียงและสื่อสาร

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความรักและพยายามฝึกภาษาอังกฤษตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไรนัก โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ ที่เขาไม่ถนัดเอาซะเลย จนทำให้พลาดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยถึง 2 ครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยครูหางโจวได้สำเร็จ

ล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน

หลังจากเรียนจบ แจ็ค หม่า ก็ได้ตระเวนหางานทำเหมือนกับคนอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งช่วงแรกของการหางาน เขาเคยโดนปฏิเสธมามากกว่า 30 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการโดนปฏิเสธจากร้าน KFC เคยสมัครเข้าเป็นตำรวจ จากผู้สมัครทั้งหมด 5 คน มีเขาคนเดียวที่ไม่ติด หรือแม้แต่เคยไปสมัครงานในโรงแรม พร้อมกับลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งก็เป็นเขาอีกเหมือนเดิมที่ไม่ได้งาน แต่ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นได้งานไป   

เรียกได้ว่าชีวิตของ แจ็ค หม่า ในช่วงเริ่มต้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและความล้มเหลวจนชิน แต่ถึงแม้เขาจะถูกปฏิเสธครั้งแล้ว ครั้งเล่านับไม่ถ้วน ก็ไม่เคยทำให้เขาหมดหวังและยังคงพยายามหางานต่อไป โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “การถูกปฏิเสธซ้ำ ๆ เป็นเหมือนบทเรียนของมหาวิทยาลัยในชีวิตจริงก็เท่านั้นเอง”

เริ่มต้นในธุรกิจ

เมื่อ แจ็ค หม่า กลับมาที่ประเทศจีน เขาจึงตัดสินใจลองทำธุรกิจเป็นครั้งแรก ด้วยการรวบรวมเงินจากกลุ่มเพื่อนมาได้ราว 6 แสนบาท ลงทุนร่วมกันเปิดเว็บไซต์ที่ชื่อว่า “China Yellow Pages” ขึ้นในเดือนเมษายน 2538 ที่มีคอนเซ็ปต์เป็นสมุดหน้าเหลืองออนไลน์ โดยการรวบรวมรายชื่อบริษัทและสินค้าต่าง ๆ ในจีน มาไว้ในเว็บไซต์

การมาของ China Yellow Pages ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีในจีน เพราะเริ่มได้เพียง 3 ปี บริษัทก็ทำเงินได้กว่า 24 ล้านบาท โดยมีรัฐบาลเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย นับว่าเป็นจุดที่ทำให้หลายคน เริ่มมองเห็นแววการเป็นนักธุรกิจของเขา เลยก็ว่าได้ แต่สุดท้าย แจ็ค หม่า ก็ตัดสินใจเดินออกมาจากบริษัทที่เขาเป็นผู้ก่อตั้ง ด้วยการขายหุ้นทั้งหมดให้รัฐบาลจีน

ทั้งนี้ มีหลายคนมองว่าเหตุผลที่ แจ็ค หม่า เลือกจะออกมาจาก China Yellow Pages ทั้งที่ธุรกิจกำลังไปได้สวย เนื่องมาจากแนวคิดที่ไม่ตรงกันกับรัฐบาล โดยเขาต้องการที่จะให้จีนทำการค้าร่วมกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งขัดกับความคิดของรัฐบาลในเวลานั้น แต่ไม่ว่าจุดจบของเขากับ China Yellow Pages จะมาจากสาเหตุอะไร มันก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “อาลีบาบา”

อาลีบาบา ธุรกิจที่เป็นจุดเปลี่ยนชีวิต แจ็ค หม่า

ในปี 2542 แจ็ค หม่า ตัดสินใจใช้เงินทุน 2 ล้านบาท ก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ชื่อว่า “อาลีบาบา” (Alibaba) โดยนำชื่อมาจากนิทานเรื่องหนึ่ง เพื่อหวังให้เป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางระหว่างผู้ผลิตและส่งออกสินค้าในจีนกับบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก

ซึ่งช่วงเริ่มต้นของอาลีบาบา อาจไม่ได้สวยงามเหมือน China Yellow Pages นัก เพราะเต็มไปด้วยอุปสรรคต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องของเงินทุน เพราะไม่ว่าจะเป็นธนาคารหรือเหล่านักลงทุน ต่างพากันมองว่า ธุรกิจนี้คงประสบความสำเร็จได้ยาก เพราะไม่มีใครเชื่อว่าอีคอมเมิร์ซในจีนจะเกิดขึ้นได้จริง 

แต่ด้วยความพยายามของ แจ็ค หม่า ทำให้ในปี 2543 อาลีบาบา ก็ได้รับเงินทุนจากต่างประเทศจำนวน 700 ล้านบาท จนเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ให้ธุรกิจเติบโตอย่างมาก เนื่องจากบริษัทได้นำเงินก้อนนี้ ไปพัฒนาแพลตฟอร์ม e-commerce ที่มีประสิทธิภาพขึ้นมา โดยเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จนประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ในขณะที่ อาลีบาบา เติบโตในตลาด B2B อย่างต่อเนื่อง อีกด้านหนึ่ง เว็บไซต์ที่ให้บริการแบบ B2C อย่าง “eBay” จากสหรัฐฯ ก็กำลังเข้ามารุกตลาดจีนเป็นอย่างมากเช่นกัน ทำให้ในปี 2546 เขาตัดสินใจเปิดตัว “Taobao.com” เว็บไซต์ขายของออนไลน์สัญชาติจีน ขึ้นมาแข่ง

แจ็ค หม่า เคยเปรียบไว้ว่า “eBay เป็นเหมือนฉลามในมหาสมุทร แต่ Taobao เป็นจระเข้แห่งแม่น้ำแยงซี ดังนั้นเราจึงได้เปรียบอยู่แล้ว ถ้าสู้ในบ้านของตัวเอง” และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะแม้ในช่วงแรก ธุรกิจของ Taobao จะดำเนินไปอย่างราบเรียบ ไม่มีกำไร

แต่หลังจากนั้นเพียง 3 ปี Taobao ก็พลิกโผขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดเกินกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ eBay ที่เคยมีสัดส่วนผู้ใช้บริการมากถึง 70-80% ตัดสินใจยกธงขาวออกจากจีนในที่สุด เพราะไม่สามารถขยายฐานลูกค้าสู้ Taobao ได้ ซึ่งกลายเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ทำให้ชื่อของ แจ็ค หม่า เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

บาคาร่า ufabet sa gaming

Last Update : 5 สิงหาคม 2020 (ข้อมูลล่าสุดปี 2020)