UFABET OFFICIAL เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
UFABET OFFICIAL เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
Facebook ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเปิดการขายสินค้าได้ง่ายๆ แต่หลายๆท่านอาจจะใช้งานFacebook แบบผิดๆถูกๆ บางท่านขายในเฟสบุ๊คส่วนตัว บางท่านขายในเพจ ว่าแต่ 2 พื้นที่แตกต่างกันอย่างไร และมีข้อดีต่างกันแบบไหน วันนี้เราจะมาอธิบายให้ท่านได้เข้าใจกัน
Facebook คือ
Facebook คือ social media ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อสื่อสารและร่วมทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง หรือหลายๆ กิจกรรมกับผู้ใช้ เฟสบุ๊ค คนอื่นๆได้ เช่น การถาม-ตอบในเรื่องที่สนใจ โพสต์รูปภาพ โพสต์คลิปวิดีโอ เขียนบทความหรือบล็อก ไลฟ์วีดีโอแบบสดๆ ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นเครือข่ายหรือสังคมขนาดใหญ่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมไปถึงในเชิงธุรกิจด้วย ติดต่อกันได้ทั่วโลก
1. กรอกรายละเอียด ได้แก่ ชื่อและนามสกุลที่ท่านต้องการใช้ ใส่อีเมล์ ตั้งรหัสผ่าน ใส่วัน เดือน ปี เกิด และกด “ลงทะเบียน”ได้แก่ ชื่อและนามสกุลที่ท่านต้องการใช้ ใส่อีเมล์ ตั้งรหัสผ่าน ใส่วัน เดือน ปี เกิด และกด “ลงทะเบียน”
2. กรอกข้อความให้ตรงกับภาพที่ปรากฎ และกด “ลงทะเบียน
3. หลังจากนั้น ระบบจะให้เราทำการยืนยันอีเมล์ว่าถูกต้องจริงหรือไม่
4. เมื่อเข้าไปสู่เมล์ของเรา ให้เข้าไปที่ “กล่องขาเข้า” แล้วเปิดเมล์ที่ เฟสบุ๊ค ส่งมาให้ เพื่อยืนยันการสมัคร
5. วิธีการค้นหาเพื่อนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ (Address Book) ของเราทำได้โดยคลิ๊กคำว่า “ค้นหาเพื่อน
6. ทำการใส่ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ เมื่อเรากรอกข้อมูลส่วนตัวเช่นสถาบันการศึกษา หรือบริษัทที่เราทางานอยู่ ให้กด “บันทึก
7. อัพโหลดรูปถ่ายของท่านลงในหน้า เฟสบุ๊ค ของท่านได้โดยเลือก อัพโหลดรูปภาพ
8. เมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวข้างต้น ก็สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้เลย
9. วิธีโพสต์สถานะทำได้โดยการใส่คำลงในช่องว่างแล้วกด “แบ่งปัน” ข้อความที่เราใส่ก็จะไปสู่หน้า เฟสบุ๊คของเพื่อน 10. วิธีการลบโพสต์ที่เราไม่ต้องการให้ขึ้นในหน้าของเรา ด้วยเหตุผลต่างๆ สามารถทำได้โดยการคลิ๊กเครื่องหมาย x ที่มุมของโพสต์นั้นๆ ข้อความนั้นก็จะหายไปจาก เฟสบุ๊ค ทันที
11. วิธีการโพสต์รูปขึ้นใน เฟสบุ๊ค ทำได้โดยการเลือก “อัพโหลดรูปภาพ” จากนั้นก็ตั้งชื่ออัลบั้ม สถานที่ แล้วเลือก “สร้างอัลบั้ม” จากนั้นจึงเลือกภาพต่างๆ ที่ต้องการ
การขายของออนไลน์ ต้องคิดถึงคนไทย เพราะคนไทยเป็นชาติที่ใช้งาน เฟสบุ๊ค มากเป็นอันดับต้นๆของโลก และได้มีการนำ เฟสบุ๊ค มาประยุกต์เป็นพื้นที่ในการซื้อขายสินค้า แต่ เฟสบุ๊คก็จะมีการแบ่งพื้นที่ให้ใช้งานตามวัตถุประสงค์ในหลายๆรูปแบบ แต่หลักๆเราจะใช้ เฟสบุ๊ค ส่วนตัว และเพจ เพื่อขายสินค้า ซึ่ง 2 พื้นที่นี้มีความแตกต่างกันดังนี้
เมื่อคุณเข้าสู่ระบบเฟสบุ๊ค ก็จะพบหน้า feed ข่าว ที่เห็นความเคลื่อนไหวของเพื่อน เพจที่คุณ follow รวมไปถึงสิ่งที่คุณ ซึ่งหน้าฟีดข่าวและหน้าโปรไฟล์ถือเป็นส่วนของ เฟสบุ๊ค ส่วนตัว ผู้ที่จะเห็นข้อมูลที่คุณโพสต์จะต้องเป็นเพื่อนกันใน เฟสบุ๊ค อีกด้วย ในการใช้งานเฟสบุ๊คส่วนตัวก็จะเหมาะสำหรับการแลกเปลี่ยน การพูดคุยกันระหว่างเพื่อน ญาติ และคนรู้จัก
เพจมีไว้สำหรับใช้งานในเชิงธุรกิจ เช่น แบรนด์ ธุรกิจ องค์กร หรือบุคคลสาธารณะ เพื่อสร้างตัวตนบน เฟสบุ๊ค และการสร้างแฟนเพจต้องมี เฟสบุ๊ค ส่วนตัวก่อน จึงสารมารถสมัครได้ และในส่วนนี้หากเปิดแฟนเพจแล้ว จะอยู่คนละส่วนกับเฟสบุ๊คส่วนตัว
แต่ทั้ง 2 พื้นที่จะแยกอิสระจากกัน ซึ่งเพจสามารถเพิ่มผู้ดูแล เพื่อช่วยในการแก้ไขข้อมูล อัพเดทข่าวสาร และที่สำคัญ เพจจะไม่จำกัดจำนวนเพื่อน เพราะเป็นการกดถูกใจ กดติดตาม ทำให้โอกาสที่คนจะเข้ามาพบเห็นโพสต์ของเราก็จะมีมากขึ้น
เพื่อให้เข้าใจถึง “ความแตกต่างระหว่างเฟสบุ๊คส่วนตัวกับเพจ” ในการทำธุรกิจเลยสรุปมาให้ดังภาพด้านบนนะคะ สำหรับท่านที่กำลังหาพื้นที่ออนไลน์ในการขายสินค้า เพจก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะได้รับความนิยม สามารถเผยแพร่ข้อมูลออกไปเป็นวงกว้างและยังสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้แบบเจาะจงด้วยวิธีการทำโฆษณา
อย่างไรก็ตามท่านใดที่จะใช้พื้นที่ เฟสบุ๊คในการค้าขายแนะนำว่าต้องศึกษาการใช้งาน และข้อกำหนดอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อใช้งาน เฟสบุ๊ค ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนะ
ในปัจจุบันนั้นเรียกได้ว่า เป็นยุคของโซเชียลกันเลยทีเดียว และถือได้ว่าจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คน ทั้งดูหนัง ฟังเพลง ทำธุรกิจ ติดตามข่าวสาร และอีกมากมาย แต่ใครที่จะมองเห็นโอกาสและนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์
และวันนี้อยากจะให้คุณลองสร้างโอกาส สร้างประโยชน์ให้กับตัวเองด้วยการใช้โลกโซเชียลที่เข้าถึงได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพียงสร้าง facebook fanpage ที่สามารถทำได้ง่ายๆและยังมีประโยชน์อีกด้วย
1. สร้างช่องทางในการทำธุรกิจ
facebook fanpage สามารถช่วยให้เรา promote สินค้าหรือธุรกิจ เช่น ขายของ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ร้านกาแฟ และยังมีธุรกิจอื่นๆมากมายที่สร้าง เฟสบุ๊ค แฟนเพจ เป็นของตัวเอง ทำให้เกิดความน่าสนใจและคนติดตามแฟนเพจมากยิ่งขึ้นสร้างโอกาสเพิ่มลูกค้า คนที่สนใจก็สามารถหาข้อมูลใน เฟสบุ๊ค fanpage ได้ และหากมีคนรีวิวร้านค้าเราในเฟจทก็จะช่วยให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
2. จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น
การที่เรามีแฟนเพจเราสามารถนำลิงก์เว็บไซต์ ข้อมูลของเราใส่ลงไปได้ หากผู้ที่เข้าชมหน้าแฟนเพจสนใจอยากดูรายละเอียดต่างๆเพิ่มขึ้น ก็สามารถคลิกลิงก์เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ทันที และในเว็บไซต์ของเราก็ควรจะมี facebook widget ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่เยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถกดไลค์ หน้าแฟนเพจได้เช่นกัน
3. เพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหา
การมีเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทของเรากระจายอยู่ในหลายๆเว็บไซต์ จะช่วยทำให้การค้นหาผ่าน search engine อย่าง google มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเมื่อมีคนสนใจสินค้า หรือ เว็บไซต์ของเรา จะทำให้เกิดการค้นหาจากกลุ่มผู้ที่ไม่ทราบช่องทางการรับข้อมูลได้อีกด้วย
นอกจากนี้ social search บริการใหม่จาก google ยังช่วยให้ผู้ค้นหาสามารถอ่านความเห็นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราได้ทันทีจากหน้าแสดงผลการค้นหา การลิงก์แฟนเพจเข้ากับเว็บไซต์หลักจึงเป็นวิธีที่เปี่ยมประสิทธิภาพในการช่วยต่อยอดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้อีกทางหนึ่ง
4. ไล่ตามคู่แข่ง
แน่นอนว่าการทำธุรกิจต่างๆนั้น ย่อมมีคู่แข่งอยู่เสมอ หากคู่แข่งมีจำนวนแฟนเพจที่มาก เราก็ควรสร้างแฟนเพจให้เกิดประโยชน์ ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
5. การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง
ในบางครั้งทางเพจมีการจัดกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ เราสามารถส่งข้อความถึงพวกเขาได้โดยตรง ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะส่งให้ใครบ้าง เช่น หากคุณทำกิจกรรมในจังหวัดหนึ่ง เราก็สามารถเลือกส่งข้อความเชิญชวนให้เฉพาะแฟนที่อยู่ในจังหวัดนั้นๆ ให้มาร่วมกิจกรรมชิงรางวัลกับสินค้าหรือบริการของเราได้ และไม่ใช่แค่พื้นที่เท่านั้น แต่อายุ หรือ เพศ ก็สามารถกำหนดได้เช่นกัน
6. สร้างกลุ่มลูกค้าได้ง่าย ไม่เสียเงิน
การสร้างแฟนเพจของเราใน เฟสบุ๊ค สามารถอัพเดทข้อมูลข่าวสาร โพสรูปภาพ วีดีโอ และอื่นๆ ลงบนโปรไฟล์ เฟสบุ๊ค ของเราเพื่อแชร์ให้แฟนเพจและคนอื่นได้เข้าชมและร่วมแสดงความคิดเห็นกันโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทำให้เราสามารถนำข้อมูลจากลูกค้าไปพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นในด้านต่างๆ
7. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
การสร้างแฟนเพจของเราใน เฟสบุ๊ค ถือว่าเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารที่ง่ายและรวดเร็ว ทำให้สามารถพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราควรพูดคุยสนทนากับลูกค้าเพื่อแสดงถึงความใส่ใจต่อลูกค้าที่มีข้อสงสัยต่างๆ
Last Update : 1 สิงหาคม 2020 (ข้อมูลล่าสุดปี 2020)